รู้จักเราทรีทเม้นท์และคลินิกพิเศษข่าวสารและสาระน่ารู้รีวิวจากลูกค้าเศรณีโปรโมชั่น สั่งซื้อสินค้าติดต่อเรา
 

Renewal Fractional รักษาหลุมสิว
ราคา 7,999 บาท

ทำการรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • ลดรอยแผลเป็น
  • ผิวหน้าไม่เรียบเนียน
  • ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง
  • เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
  • พิเศษ!! Mask Biodermal ช่วยลดอาการบวม แดง ร้อน หลังทำ Fractional ได้ดี
  • ลิขสิทธิ์เฉพาะเศรณีคลินิก หลังทำจะรู้สึกได้ทันทีถึงผิวหน้านุ่ม ขาว ใส



Fractional radiofrequency 
เป็นการนำพลังงานคลื่นวิทยุมาใช้ โดยปล่อยพลังงานเป็นส่วนๆ ทำให้เกิดพลังงานความร้อนใต้ชั้นผิวหนัง ส่งลงไปยังชั้นผิวหนังชั้นลึกเป็นหลัก ซึ่งเป็นบริเวณที่มีคอลลาเจน (Collagen) อิลาสติน (Elastin) และไฮยาลูโลนิคแอซิด (Hyaluronic acid) ทำให้เนื้อเยื่อเหล่านี้บาดเจ็บ คอลลาเจนหดตัว มีการกระตุ้นให้สร้างและเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจน อีลาสติน ผลลัพธ์ที่ได้ คือหลุมสิวจะตื้นขึ้น ช่วยกระชับรูขุมขน ลดริ้วรอย ลดการหย่อนคล้อย ผิวหน้าจะกระชับมากขึ้น โดยสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ทำครั้งแรก  Fractional RF ถือเป็นเทคนิครักษาหลุมสิวที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ผลข้างเคียงน้อย และเหมาะสมที่จะใช้กับชาวเอเชีย ได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อต้องการลดผลข้างเคียงของ Fractional laser ซึ่งจะทำลายเซลล์ผิวตั้งแต่ชั้นบนลงมาทั้งหมด ทำให้เกิดรอยแดงไหม้ ผิวหนังคล้ำได้ง่ายกว่า (คล้ำง่ายจากการกระตุ้นผ่านเซลล์เม็ดสีที่อยู่ในผิวหนังชั้นบน)

Fractional RF แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
  1. Fractional radiofrequency microneedle system (FRMS) เป็นแบบมีหัวเข็ม จะใช้เข็มขนาดเล็กมาก เป็นตัวส่งผ่านพลังงาน ให้เกิดความร้อนกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน  โดยที่ส่วนที่ปล่อยพลังงานคือส่วนของปลายหัวเข็ม ดังนั้นพลังงานจะไม่ทำลายผิวหนังชั้นบน
  2. Fractional radiofrequency non-needle system เป็นแบบไม่ใช้เข็ม ส่วนใหญ่จะเป็นการปล่อยพลังงานแบบ bipolar radiofrequency เพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวชั้นลึกเช่นเดียวกัน แต่แบบนี้จะมีโอกาสลอกผิวชั้นบนได้มากกว่าแบบมีเข็ม
  ทั้งนี้ ขึ้นกับปัญหาของแต่ละคนว่ามีมากน้อยแค่ไหน ต้องการแก้ปัญหาที่จุดใด หลุมสิวเป็นแบบใด ตื้นลึกแค่ไหน แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าควรใช้วิธีใดในการ

ทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล?
โดยปกติแล้วสามารถเห็นผลได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ จะรู้สึกผิวหน้ากระชับขึ้น หลุมสิวตื้นขึ้น ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพผิวหน้าของแต่ละคน หากหลุมสิวลึก เป็นมาก แนะนำว่าควรทำอย่างน้อย ประมาณ 5-6 ครั้ง ห่างกันทุก 4-6 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจนมากขึ้น 

 
ข้อห้าม
หลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่ใส่เหล็กจากการผ่าตัด ผู้ที่ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ pacemaker ผู้ที่มีบาดแผลติดเชื้อที่ใบหน้า เป็นต้น

บทความจาก ... แพทย์หญิง อินทุอร ภัทรไกร(หมอบุ๋ม) แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากเศรณีคลินิก